RMS – รอ Hermès ลดราคา?

Hermès International Société en commandite par actions

ผู้หญิงหลายคนชอบซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม (ในขณะที่ผู้ชายซื้อนาฬิกา) โดยให้เหตุผลว่าเป็นการลงทุน สามารถขายต่อได้ในราคาที่สูงขึ้น แต่เคยอ่านบทความที่บอกว่ามีกระเป๋าเพียงยี่ห้อเดียว ที่นับว่าเป็นการลงทุน นั่นคือ กระเป๋า Hermès, ในขณะที่นาฬิกาคือ Rolex (ไม่ขอยืนยันความถูกต้องของข้อมูลนะครับ)

อย่างที่ทราบกันดีว่า สินค้าของ Hermès นั้นจะจับเฉพาะกลุ่มพรีเมี่ยมเท่านั้น มีราคาสูง(มาก) กระเป๋า Hermès นั้น โดยเฉพาะรุ่นที่ฮิตๆ อย่าง Birkin หรือ Kelly เค้าว่า คนที่ต้องการจะซื้อนั้น มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้อง…. คุณต้องทำการบ้าน รู้เรื่องแบรนด์ รุ่น หรือสินค้าเขาเป็นอย่างดี แต่งตัวมีสไตล์ รวมทั้งอุดหนุนสินค้าอื่นๆของเค้าก่อน เช่น ผ้าพันคอ เข็มขัด พวก accessories ต่างๆ ก่อน คุณถึงจะมีโอกาส(ย้ำว่ามีโอกาส ไม่ใช่ได้แน่ๆ) ได้ซื้อกระเป๋าของเขา บางทีก็ต้องรอเป็นปีๆ เรียกได้ว่า กระเป๋า Hermès นั้นเลือกลูกค้า ไม่ใช่ลูกค้าเลือกกระเป๋า


ในเมื่อ Hermès เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่างมาก สาวๆทั่วโลกล้วนอยากครอบครองมีไว้เป็นเจ้าของสักใบ เราก็น่าจะศึกษาหุ้น Hermès และเป็นเจ้าของบริษัทกันดีกว่า

Hermès ก่อกำเนินขึ้นในปี 1837 และมีความภาคภูมิใจในความเป็น craftsmanship เป็นอย่างมาก

ย้อนหลังสิบปีหลังสุด Hermès มีการเติบโตของรายได้ และกำไรสุทธิเฉลี่ยปีละ 13.1% และ 15.2% ตามลำดับ

ปี 2017 Hermès มีสาขาทั้งหมด 212 สาขา และตัวแทนขายอีก 92 แห่ง มีรายได้ 5.55 พันล้านยูโร (หรือ 208,000 ล้านบาท ), กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 1.92 พันล้านยูโร (หรือ 72,160 ล้านบาท) มี profit margin 21% (ของ LVMH อยู่ที่ 19%)

Hermès ดำเนินกลยุทธ์ต่างจาก LVMH โดยจะไม่มีการ take over หรือ ซื้อแบรนด์ เข้ามาบริหาร โดยจะโฟกัสไปที่ Hermès เพียงแบรนด์เดียว (จริงๆแล้ว มีแบรนด์เล็กๆ ด้วย แต่ไม่ใช่สินค้าพวกแฟชั่น และเป็นสัดส่วนทีน้อยมาก) แต่จะมีสินค้าในหลายกลุ่ม

แบ่งกลุ่มธุรกิจเป็น

  1. Leather goods & Saddlery (เครื่องหนัง และเครื่องอานม้า) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 50%
  2. Ready-to-wear & Fashion Accessories รายได้คิดเป็น 21%
  3. Silk & Textiles รายได้คิดเป็น 10%
  4. Other Hermes sector รายได้คิดเป็น 7%
  5. Perfumes รายได้คิดเป็น 5%
  6. Watches รายได้คิดเป็น 3%
  7. Other products รายได้คิดเป็น 4%

สัดส่วนรายได้เมื่อแบ่งตามภูมิภาค

  1. เอเชีย ไม่รวมญีปุ่น คิดเป็นสัดส่วน 34%
  2. ญี่ปุ่น 14%
  3. อเมริกา 18%
  4. ยุโรป ไม่รวมฝรั่งเศส 18%
  5. ฝรั่งเศส 14%
  6. อื่นๆ 2%

เช่นเดียวกับ LVMH, รายได้ส่วนใหญ่ของ Hermès มาจากฝั่งเอเชีย โดยคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ของรายได้รวมเลยทีเดียว


ปี 2018 ถึงแม้ตลาดจะมีความกังวลจาก trade war ระหว่างจีนและอเมริกา และตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มจะไม่ดี (จีนนับเป็นตลาดที่สำคัญของ Hermès คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 1/3) หุ้น Hermès มี valuation ที่แพงมาก เช่นเดียวกับกระเป๋าของพวกเขา โดยมี PE อยู่ที่ 40 เท่า

“กระเป๋า Hermès” ไม่มีนโยบายลดราคา หรือทำโปรโมชั่น แต่เชื่อว่า “หุ้น Hermès” น่าจะเวลาที่ราคาลดลงหรือมี discount และเราจะมารอเวลานั้น