วางแผนประกัน

Posted on by

ประกัน เปรียบเหมือน “ร่ม” ยามใดที่ท้องฟ้าสดใส “ร่ม” จะเป็นภาระ เกะกะ ไม่คล่องตัว แต่ยามใดที่ฝนตกหรือแดดแรง เราจะดีใจที่มี “ร่ม” ให้พึ่งพา

ชีวิตคนเราก็เช่นกัน วันที่ไม่มีเรื่องร้ายๆ หลายคนอาจคิดว่าการทำประกันเป็น “ภาระทางการเงิน” แต่หากได้เจ็บไข้ได้ป่วย ประสบอุบัติเหตุ หรือร้ายแรงจนเสียชีวิต เมื่อนั้นแหละจะรู้ถึงคุณค่าของประกันทันที

ดังนั้น เราควรมาป้องกันความเสี่ยงด้วยการ “วางแผนประกัน”

ก่อนทำประกัน ต้องดูว่าเรามีภาระค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สินอะไรบ้าง เช่น  ค่าผ่อนบ้าน, เงินออมเกษียณ, เงินค่าเรียนลูก เราก็ควรทำประกันให้ครอบคลุมความเสี่ยงและภาระทางการเงินทั้งหมด พร้อมทั้งสำรวจสวัสดิการที่มีอยู่ และใช้วิธี “ซื้อเพิ่ม” ในส่วนที่ขาด จะได้ไม่ต้องเสียค่าเบี้ยประกันเกินความจำเป็น

อีกปัญหาหนึ่งของการซื้อประกัน คือ ซื้อประกันไม่ตรงกับความต้องการและวัตถุประสงค์ของตัวเอง

บางคนเน้นคุ้มครองเวลาเจ็บป่วย, บางคนเน้นผลตอบแทน, บางคนนึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังว่าให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด

ทุนประกันเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม

วิธีง่ายที่สุดคือ วิธีทวีคูรรายได้ โดยตัวเลขทวีคูณที่นิยมใช้ จะอยู่ระหว่าง 3-5 เท่าของรายได้ต่อปี โดยประเมินจาก “ระยะเวลาในการปรับตัว” เพื่อให้คนที่อยู่ต่อข้างหลังสามารถดูแลตนเองและดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

เช่น นาย ก. มีรายได้ 500,000 บาทต่อปี

ถ้าใช้ตัวเลขทวีคูณเท่ากับ 5 นาย ก. ควรทำประกันชีวิตด้วยทุนประกัน 500,000 x 5 = 2,500,000 บาท

หากนาย ก.จากไป ภรรยาของนาย ก. จะได้รับเงิน 2,500,000 บาท ซึ่งจะช่วยให้มีเวลาตั้งหลักและมีเงินใช้จ่ายเหมือนนาย ก. ยังทำงานหาเงินอยู่อีก 5 ปี

จ่ายเบี้ยเท่าไหร่ ถึงไม่สร้างภาระ

เกณฑ์เบื้องต้นคือ เบี้ยประกันชีวิตต่อปี ไม่ควรเกิน 10% ของรายได้ต่อปี

จากตัวอย่างเดิม นาย ก. ไม่ควรจ่ายเบี้ยประกันชีวิตเกินปีละ 500,000 x 10% = 50,000 บาท

ประกันสุขภาพ ซื้ออย่างไรให้ได้เปรียบ

เมื่อซื้อประกันชีวิตหลักไว้แล้ว จะเป็นการดีถ้าเราซื้อพ่วงประกันสุขภาพ เข้าไปด้วย เพราะไม่ว่าจะแข็งแรงปานใด ก็ไม่สามารถแน่ใจว่าสักวันหนึ่งจะไม่ล้มหมอนนอนเสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา สมัยนี้แพงมาก

การเลือกซื้อประกันสุขภาพ ควรซื้อแค่ “ส่วนเกิน” ของสวัสดิการที่คุณมีเท่านั้น

เวลาซื้อต้องคำนึง 2 ส่วนคือ “ค่ารักษาพยาบาล” กับ “ค่าห้อง”

อย่างไรก็ตาม เราอาจไม่จำเป็นต้องซื้อประกันสุขภาพเต็ม 100% ของค่าห้องที่พอใจ เอาแค่ครอบคลุม 80% ก็พอ เช่น อยากนอนห้อง ร.พ.บีเอ็นเฮช ค่าห้องวันละ 8,800 บาท (ดูค่าห้อง รพ.อื่น ๆได้ที่นี่) เราก็อาจซื้อประกันสุขภาพให้มีค่าห้องรวมเป็น 7,000 บาทเป็นต้น

สนใจให้เราวางแผนประกัน (ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย) ติดต่อได้ที่ Line id: @549jugcw