NCT – ส่วนแบ่งตลาดลดลง เพราะผู้เล่นใหม่

Noi Bai Cargo Terminal Services JSC (NCT)

 

มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น Vietnam Airlines (HVN) (ถือหุ้นอยู่ 55%) ให้บริการ air cargo ในสนามบิน Noi Bai ที่ฮานอย ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่อันดับสองของประเทศรองจาก Tan Son Nhat ที่โฮจิมินห์

 

NCT ไม่ได้เป็นเจ้าของสนามบิน หรือเจ้าของ air cargo terminal แต่เป็นเพียงผู้เช่าพื้นที่ในส่วน air cargo terminal และ parking space แล้วนำมาบริหาร ให้บริการลูกค้า โดยที่ NCT มีลูกค้าเป็นสายการบินจำนวน 23 สาย จากทั้งหมด 46 สายที่ขึ้นลงที่สนามบิน Noi Bai และมีลูกค้าเป็นบริษัท forwarding agents อีกมากกว่า 400 บริษัท

 

สัดส่วนรายได้ของ NCT มาจาก cargo handling 82%, warehouse 8% และ บริการอื่น 10%

 

ปี 2012 สนามบิน Noi Bai มีผู้ให้บริการ air cargo เพียงสองราย คือ NCT และ ACSV (Air Cargo Services of Vietnamซึ่งเป็นเจ้าของ Noi Bai Cargo Terminal) โดยที่ NCT มี market share เป็นอันดับ 1, มีmarket share ในส่วนของ domestic cargo สูงถึง 89.5% และส่วนที่เป็น international cargo สูงถึง 86.3% (รายได้ของ NCT จาก international มีสัดส่วนที่มากกว่า domestic)

 

นอกจากมีคู่แข่งเพียงรายเดียว, ตัวเองมี market share ที่สูงแล้ว, NCT ยังมี ROE และ GP margin ที่สูงมากเช่นกัน คือ 66% และ 50% ตามลำดับ เมื่อรวมกับปัจจัยภายนอก ที่ตัวสนามบิน Noi Bai เองก็มีการเติบโตที่สูง มีปริมาณ cargo เพิ่มปีละ 15-20% จึงทำให้ NCT แทบจะเป็น ‘Super Stock’ ตัวหนึ่งเลยทีเดียว

 


 

ทุกอย่างดูดีมาก สำหรับ NCT…แต่สถานะการณ์ก็เปลี่ยนไป เมื่อมีผู้เล่นรายที่สาม เข้ามา

 

เนื่องจาก capacity ของ terminal เดิมนั้น ใช้เต็มและใช้เกินมาหลายปี จนในที่สุดบริษัท ALS ก็ได้รับอนุญาตจากทางสนามบินให้สร้าง air cargo terminal ใหม่ และเปิดให้บริการสำหรับ international cargo ในปี 2015 และหลังจากนั้น market share ของ NCT ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทันที

 

ในปี 2017 NCT มี market share ของ domestic cargo ลดเหลือ 75%, international cargo ลดเหลือ 48% ทำให้ market share รวมของ NCT ลดเหลือ 55%, ตัวเลขอาจจะดูสูงอยู่ แต่ก็ถือว่าลดลงมาเยอะ เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนที่ครองส่วนแบ่งเกือบ 90%)

 

ในขณะที่ ALS คู่แข่งรายใหม่มี market share เพิ่มจาก 25% เป็น 35% ในปี 2017 และมีแนวโน้มจะได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเพราะ ALS มีลูกค้าหลักที่สำคัญคือ Samsung ที่มีปริมาณ cargo เพิ่มขึ้นตลอด

 

อย่างไรก็ตาม NCT ยังพอ,มีโชคดีอยู่บ้าง เพราะอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต และอยู่ในสนามบินขนาดใหญ่, ปี 2017 ปริมาณ air cargo รวมทั้งหมดของสนามบิน Noi Bai เพิ่มขึ้น 18%

 

ทำให้ปริมาณ air cargo ของ NCT เพิ่มขึ้น 8% แต่ก็โตน้อยกว่าตลาดพอสมควร (18% vs 8%), ทำให้ปี 2017 NCT มีรายได้อยู่ที่ 719,520 ล้านดอง (1,045 ล้านบาท) โต 4.5% และมีกำไรสุทธิโต 0.9%

 

ข่าวดีอีกข่าวหนึ่งของ NCT คือ ปี 2018 ACVS ได้สร้าง cargo terminal และ warehouse ขึ้นมาใหม่ และมีแผนที่จะให้ NCT เช่าใช้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผน จะทำให้ NCT สามารถขยาย capacity เพียงรองรับปริมาณ cargo ได้อีกหลายปี หลังจากที่ NCT ต้องใช้เต็ม capacity มามากกว่า 10 ปี (capacity ปัจจุบันคือ 300,000 ตัน/ปี)

 


NCT ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจบริการ air cargo ที่สนามบิน Noi Bai และอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต

 

แต่การลงทุนใน NCT ก็มีความเสี่ยง เพราะบริษัทไม่ได้เป็นเจ้าของสนามบิน (ACV) หรือ terminal (ACSV, ALS) เอง แต่ NCT เป็นเพียงผู้เช่า และนำพื้นที่ที่เช่านั้นมาให้บริการต่อ มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการสร้าง terminal ใหม่เพิ่มเติมในอนาคต (เหมือนเคส ALS) และ NCT จะไม่ได้เป็นผู้เช่าหลัก และทำให้โอกาสการเติบโตในอนาคตของบริษัทลดลง อีกทั้งไม่มีข้อมูลด้วยว่าสัญญาเช่าที่ NCT ทำไว้กับ terminal ปัจจุบันนั้นมีอายุกี่ปี และเหลืออีกกี่ปี

 

ปี 2018 NCT มี PE อยู่ที่ประมาณ 9 เท่า และให้ปันผลสูงถึงเกือบ 10% ถือว่าน่าสนใจสำหรับคนที่ชอบหุ้นไม่แพง และปันผลสูง แต่ก็แลกมาด้วยความไม่แน่นอนของการเติบโตในอนาคต นักลงทุนจะต้องคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก